Tourist in Thailand
สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยปี 2008 -2015
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
องค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations World
Tourism Organization: UNWTO) ได้ทำการจัดอันดับประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก
ในปี 2016 – 2017 ปรากฏว่าประเทศไทยถูกจัดอยู่อันดับที่ 3
โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยว (49.9 Billion US$) ซึ่งรองจากอันดับ
1 คือประเทศสหรัฐอเมริกา (205.9 Billion US$) และอันดับ 2
คือประเทศสเปน (60.3 US$) โดยประเทศที่มีรายได้รองจากไทย
ได้แก่ ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส ตามลำดับ (ที่มา : UNWTO World Tourism
Barometer, 2017) ซึ่งสถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการเติบโตเป็นอย่างมาก
ซึ่งเห็นได้จากรายรับจากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยเฉพาะรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังแสดงให้เห็นในรูปภาพที่ 1
จากรูปภาพที่ 1 จะเห็นว่ารายรับจากการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงปี
2011 – 2016 โดยพบว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายรับรวมอยูที่ 16.28% โดยอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายรับจากนักท่องเที่ยวไทยคิดเป็น
13.04% และอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น
18.24% ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเติบโตของรายรับจากการท่องเที่ยวของประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสำคัญ
ถึงแม้ในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ การประกาศใช้กฏอัยการศึก
หรือปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่
แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในประเทศไทยมากนัก
จากสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยสามารถสรุปเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ดังรูปภาพที่
2
รูปภาพที่ 3 จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้รวมจากนักท่องเที่ยว (Tourist and Total Receipt)
รูปภาพที่ 4
ระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยในแต่ละพื้นที่
รูปภาพที่ 5
จำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในปี
2015
จากรูปภาพที่
2 จะให้ได้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ของประเทศไทยที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศส่วนใหญ่จะมาจากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองเป็นสำคัญ
แต่เมื่อเทียบกับรูปภาพที่ 1
จะพบว่าถึงแม้ประเทศไทยจะมีปัญหาความไม่สงบทางการเมืองดังกล่าวแต่ไม่กระทบต่อรายรับจากการท่องเที่ยวมากนัก
เว้นแต่ในช่วงปี 2014 ที่รายรับจากการท่องเที่ยวมีอัตราการเติบโตที่ลดลง
เนื่องจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกภายใต้การบริหารงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
และ
58 ประเทศได้ออกประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเดินทางเข้าประเทศไทย
ซึ่งส่งผลให้รายรับจากการท่องเที่ยวในปีนั้นลดลงจากปีก่อน
จากรายรับจากการท่องเที่ยวของประเทศไทยและสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะพบว่าการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในประเทศไทยถือเป็นแหล่งรายรับสำคัญที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น
ทางคณะผู้ศึกษาจึงได้นำข้อมูลการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในประเทศไทยมาศึกษาถึงวิวัฒนาการต่าง
ๆ เพื่อให้เกิดเป็นองค์ความรู้และสามารถนำไปสร้างประโยชน์ต่อได้
ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา
การศึกษาข้อมูลของนักท่องเที่ยวต่างประเทศในประเทศไทยทำโดยรวบรวมข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) โดยมีตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา จำนวน 6 ตัวแปร ดังนี้
1. ประเทศ (Country: i) จำนวน 44 ประเทศ โดยแบ่งเป็น ทวีปเอเชีย 24 ประเทศ ทวีปยุโรป 13 ประเทศ
ทวีปอเมริกาเหนือ 2 ประเทศ ทวีปอเมริกาใต้ 2 ประเทศ ทวีปโอเชียเนีย 2 ประเทศ
และทวีปแอฟริกา 1 ประเทศ
2.
ปี (Year: k) จำนวน 8 ปี คือ ช่วงเวลาในการศึกษาระหว่างปี 2008 – 2015
3. จำนวนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากร (Tourist per
Population) คือ จำนวนนักท่องเที่ยวประเทศ i ต่อจำนวนประชากรของประเทศ
i 10,000 คน ที่มาเที่ยวประเทศไทยในปีที่ k (หน่วย : คนต่อหมื่นคน)
4. ระยะเวลาพำนัก (Length of Stay) คือ จำนวนวันโดยเฉลี่ยที่นักท่องเที่ยวประเทศ i เข้าพักที่ประเทศไทยในปีที่
k (หน่วย : วัน)
5. ค่าใช้จ่ายต่อวัน (per Capital
Spending) คือ ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่อวันที่นักท่องเที่ยวประเทศ i
ใช้จ่ายในประเทศไทยในปีที่ k (หน่วย : บาทต่อวัน)
6. รายได้รวมจากนักท่องเที่ยว (Tourist
Receipts) คือ รายได้จากนักท่องเที่ยวประเทศ i ทั้งหมดที่ประเทศไทยได้รับ ในปีที่ k (หน่วย : ล้านบาท)
การสร้างภาพนิทัศน์จากข้อมูล (Data
Visualization)
เนื่องจากข้อมูลที่ใช้ในการศึกษานี้เป็นข้อมูลอนุกรมเวลา
(Time Series) โดยมีตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาทั้งสิ้น 6 ตัวแปร
ดังนั้น เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรต่าง ๆ อย่างชัดเจนและเป็นเรื่องราว
ทางคณะผู้ศึกษาจึงได้นำเทคนิคการสร้างภาพเคลื่อนไหว (Animation) มาใช้เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา
และได้ประยุกต์ใช้เทคนิคการนำเสนอข้อมูลบนแผนที่ (Spatial Data
Visualization) เพื่อใช้ในการนำเสนอข้อมูลแต่ละประเทศและเป็นการดูว่าตัวแปรนั้นมีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่หรือไม่
ซึ่งเทคนิคต่าง ๆ ทางคณะผู้ศึกษาได้จัดทำในโปรแกรม Tableau โดยสามารถนำเสนอข้อมูลออกมาได้ดังนี้
1.
จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้รวมจากนักท่องเที่ยว (Tourist and Total
Receipt)
เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยและรายได้ทั้งหมดที่ประเทศไทยได้จากแต่ละประเทศนั้น
คณะผู้ศึกษาได้ใช้โปรแกรม Tableau
ในการสร้างภาพนิทัศน์จากข้อมูล (Data Visualization) โดยมีองค์ประกอบทางกราฟฟิก (Graphic Elements) ดังนี้
- แผนที่ แทนประเทศ
จำนวน 44 ประเทศ
- การเคลื่อนไหว แทนปี จำนวน 8
ปี ได้แก่ ปี 2008 - 2015
- เฉดสีเขียวระบายบนแผนที่ แทนรายได้รวมที่ประเทศไทยได้จากประเทศนั้น
ๆ (หน่วย : ล้านบาท) โดยการไล่จากเฉดสีอ่อนไปสีเข้มแสดงถึงการไล่ระดับรายได้ทั้งหมดจากจำนวนน้อย
(200 ล้านบาท) ไปมาก (400,000 ล้านบาท)
- วงกลมสีน้ำตาล แทนจำนวนนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากรของประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
จากข้อมูลดังกล่าวสามารถแสดงให้เห็นได้
ดังรูปภาพที่ 3
จากการคำนวณจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยเฉลี่ย (เทียบสัดส่วนนักท่องเที่ยว 200
คนต่อจำนวนประชากรประเทศนั้น ๆ 10,000 คน) โดยพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากที่สุด
3 อันดับแรก ได้แก่ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศมาเลเซีย
มีจำนวนนักท่องเที่ยวในไทยโดยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 1,600 คน, 1,400 คน และ 730 คน ตามลำดับ ยกเว้นในปี 2013
ประเทศมาเลเซียตกเป็นอันดับที่ 35 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยว 22 คนต่อประชากรของประเทศมาเลเซีย
10,000 คน จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าประเทศ 3
อันดับแรกที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากรที่มาเที่ยวไทยมากที่สุดต่างเป็นประเทศเพื่อนบ้านทั้งสิ้น
จากข้อมูลรายได้รวมจากการนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศที่ประเทศไทยได้รับโดยใช้เฉดสีบนแผนที่แสดงข้อมูลนั้น
พบว่าในปี 2008
– 2010 รายได้รวมที่ประเทศไทยได้รับไม่แตกต่างกันมากนัก
กล่าวคือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 10% ต่อปี แต่ในปี 2011
– 2013 รายได้รวมที่ประเทศไทยได้รับเพิ่มขึ้นสูงถึง
30% ต่อปี และมาลดลงในปี 2014 ประมาณ 3% อันเนื่องมากจากการประกาศใช้กฎอัยการศึก และ 58
ประเทศได้ออกประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเดินทางเข้าประเทศไทย ต่อมาในปี 2015
รายได้รวมที่ประเทศไทยได้รับก็กลับมาสู่สภาวะปกติเช่นเดิม
หากมองรายได้รวมที่ประเทศไทยได้รับในแต่ละประเทศ
จากรูปภาพที่ 3 พบว่าประเทศจีนมีแนวโน้มนำรายได้เข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โดยที่ประเทศจีนนั้นมีรายได้เข้าประเทศไทยสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 1 เฉลี่ยปีละ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 70% ต่อปี คิดเป็นสัดส่วนรายได้เข้าประเทศไทย 15% จากประเทศทั้งหมด
44 ประเทศ และประเทศที่รองลงมา คือ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประเทศอาร์เจนตินา
และฮ่องกง นำรายได้เข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 30% และมีแนวโน้มสูงขึ้นในปีต่อ ไปเช่นกัน ในทางกลับกันพบว่าสหพันธรัฐรัสเซีย
ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นำรายได้เข้าประเทศไทยลดลงเฉลี่ย 25% ต่อปี ทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้จาก 3 ประเทศนี้ประมาณ
20,000 ล้านบาทต่อปี
2. ระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยในแต่ละพื้นที่ (Average Length of Stay
by Region)
จากการนำประเทศทั้งหมดจำนวน
44 ประเทศ มาแบ่งออกเป็น 6 พื้นที่ตามสัญชาติ ได้แก่ เอเชีย โอเชียเนีย แอฟริกา
ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา เพื่อมาศึกษาระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยในแต่ละพื้นที่
โดยคณะผู้ศึกษาได้ใช้โปรแกรม Tableau ในการสร้างภาพนิทัศน์จากข้อมูล
(Data Visualization) โดยมีองค์ประกอบทางกราฟฟิก (Graphic
Elements) ดังนี้
-
แกน X แทนปี
จำนวน 8 ปี ได้แก่ ปี 2008 - 2015
-
แกน Y
แทนพื้นที่ที่แบ่งออกเป็น
6 พื้นที่
-
เฉดสีม่วงในตาราง Matrix แทนระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ย
(หน่วย : วัน) โดยการไล่จากเฉดสีอ่อนไปสีเข้มแสดงถึงการไล่ระดับวันจากจำนวนน้อย (4
วัน) ไปจำนวนมาก (20 วัน)
จากข้อมูลดังกล่าวสามารถแสดงให้เห็นได้
ดังรูปภาพที่ 4
พบว่าระยะเวลาพำนักในประเทศไทยของประเทศต่าง
ๆ โดยเฉลี่ย ตั้งแต่ปี 2008 - 2015 ประมาณ
10 วัน โดยที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปมีระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยมากที่สุด
คือ 15 วัน เนื่องจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวยุโรปมักใช้เวลาท่องเที่ยวในแต่ละครั้งเวลานานทำให้มีระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยมากที่สุด
ในขณะที่ชาวเอเซียมีระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 7 วัน
จากรูปภาพที่ 4 จะพบว่าตั้งแต่ปี 2008 - 2011 นักท่องเที่ยวแต่ละสัญชาติมีระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยใกล้เคียงกัน ส่วนในปี 2012 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทย ส่งผลให้ระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง
7 วัน แต่ในปี 2013 - 2015 นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยยาวนานขึ้น โดยมีระยะเวลาพำนักโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปี
2012 และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเช่นนี้ต่อไป
3.
จำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในปี 2015 (Tourist and Spending in 2015)
เพื่อศึกษาจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในปี
2015 คณะผู้ศึกษาได้ใช้โปรแกรม Tableau ในการสร้างภาพนิทัศน์จากข้อมูล
(Data Visualization) โดยมีองค์ประกอบทางกราฟฟิก (Graphic
Elements) ดังนี้
-
กราฟแท่ง (Bar Chart) แทนจำนวนนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากรของแต่ละประเทศ
ในปี 2015
-
กราฟเส้น (Line Chart) แทนค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ ในปี
2015 (ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ = ระยะเวลาพำนัก x ค่าใช้จ่ายต่อวัน)
-
แกน X แทนประเทศทั้งหมด
จำนวน 44 ประเทศ
-
แกน Y แทนจำนวนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากร
(หน่วย : ต่อหมื่นคน) และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อหัว (หน่วย : บาทต่อคน)
จากข้อมูลดังกล่าวสามารถแสดงให้เห็นได้
ดังรูปภาพที่ 5
จากรูปภาพที่
5 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากรในประเทศนั้น ๆ ที่มาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุดในปี
2015 ได้แก่ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ประเทศมาเลเซีย ฮ่องกง และประเทศบรูไน ตามลำดับ ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชียและอยู่บริเวณใกล้เคียงกับประเทศไทย
แต่เมื่อพิจารณาควบคู่กับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยต่อคน พบว่านักท่องเที่ยวชาวเอเซียมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศไทยน้อยที่สุด
เฉลี่ยเพียงประเทศละ 37,000 บาทต่อคนเท่านั้น
โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพียง 26,000 บาทต่อคนเท่านั้น ในขณะที่นักท่องเที่ยวภูมิภาคอื่น ๆ มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงกว่า
คิดเฉลี่ยประเทศละ 72,000 บาทต่อคน โดยประเทศอิสราเอล และประเทศสวีเดน
มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยสูงถึง 81,000 บาทต่อคน
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศที่อยู่ใกล้กับประเทศไทยมีแนวโน้มที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากรในประเทศนั้น ๆ
มาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมากแต่กลับมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยเฉลี่ยต่ำ
ในขณะที่ประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ภูมิภาคยุโรปที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่อจำนวนประชากรในประเทศนั้น ๆ ที่มาเที่ยวประเทศไทยจำนวนน้อย แต่กลับมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยจำนวนมาก
แหล่งที่มาของข้อมูล :
1. สถิตินักท่่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยปี 2008 -2015 http://www.tourism.go.th/view/1/สถิตินักท่องเที่ยว/TH-TH
2. Country list by region - base on United Nation Country Grouping http://www.internetworldstats.com/list1.htm
แหล่งที่มาของข้อมูล :
1. สถิตินักท่่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยปี 2008 -2015 http://www.tourism.go.th/view/1/สถิตินักท่องเที่ยว/TH-TH
2. Country list by region - base on United Nation Country Grouping http://www.internetworldstats.com/list1.htm
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สมาชิกกลุ่ม
1. นางสาว นันทรัตน์ เชื้อสาย รหัส 5820423029
2. นางสาว เบญจา เลิศศิริ รหัส 5820423033
3. นางสาว สุกฤตา บุญเกียรติบุตร รหัส 5820423043
4. นาย เกษม กิตติเกษมคุณ รหัส 5820423046
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น